บทความนี้จะช่วยให้คนไข้เตรียมตัวเพื่อให้ผ่านช่วงพักฟื้นไปได้อย่างราบรื่นครับ
สิ่งที่สำคัญที่สุดของการฟื้นตัวคือเวลา คนไข้อาจจะไม่ได้หายใจโล่งทันทีในวันรุ่งขึ้นหลังผ่าตัด โดยต้องยอมรับความอึดอัดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ซึ่งคนไข้อาจจะรู้สึก คัดจมูกมาก (อาจจะมากกว่าก่อนผ่า) เนื่องจากแผลบวมและอาจมีวัสดุห้ามเลือดอยู่ภายใน นี่เป็นเรื่อง ปกติ ครับ แม้ว่าตอนแรกตั้งใจจะมาผ่าตัดแก้อาการคัดจมูกก็ตาม
ไม่มากก็น้อยจะคนไข้มีเลือดไหลจากจมูกหรือไหลลงคอ หากเลือดไหลซึมๆ ติดผ้าก๊อซ ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องปกติที่ยอมรับกันได้ เนื่องจากแผลผ่าตัดในจมูกจะเป็นแผลที่ไม่ได้มีการเย็บ แต่จะเป็นการจี้เพื่อหยุดเลือดเอาไว้ และยังมีพื้นที่ที่เป็นแผลสดที่ไม่ได้จี้เพราะไม่มีเส้นเลือดมาเลี้ยงโดยตรง แผลเหล่านี้มีโอกาสที่จะมีเลือดไหลซึมได้หลังผ่าตัด แต่กรณีที่อันตรายคือการที่เลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง หรือมีอาการหน้ามืด มึนงง แบบนี้ต้องรีบติดต่อรพ. และ/หรือควรมาที่รพ.ทันที
ในวันแรก หรือ 12 ชม.แรก อาจจะมีอาการมึนงงจากยาสลบได้บ้าง
ช่วงสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด
การล้างจมูกเป็นสิ่งจำเป็นและคนไข้อาจต้องทำบ่อยๆ (วันละ 2-4 ครั้ง หรือตามที่เขียนในฉลาก) เหตุผลที่ต้องล้างคือการล้างจะช่วยชะล้างคราบเลือดเก่า สะเก็ดแผล และน้ำมูกเหนียวๆ ออก ช่วยให้แผลสะอาด ลดการติดเชื้อ และทำให้คนไข้รู้สึกโล่งขึ้น ในช่วงแรกน้ำที่ล้างออกมาอาจมีสีแดงจางๆ หรือสีคล้ำ ไม่ต้องตกใจครับ หลังจากล้างจมูกจะมีน้ำใสๆไหลออกมา เมื่อเราเอียงศีรษะ ซึ่งสิ่งนี้คือน้ำเกลือที่เข้าไปขังในไซนัส เมื่อเอียงศีรษะจึงไหลออกมา อันนี้เป็นเรื่องปกติครับ
ในช่วงสองสัปดาห์แรกควรพักผ่อน และหากจำเป็นอาจทำกิจกรรมเบาๆได้ แนะนำว่าควรนอนหนุนหมอนสูง ใช้หมอน 2-3 ใบ หรือนอนบนโซฟาแบบปรับเอนได้ เพื่อให้ศีรษะสูงกว่าหัวใจ วิธีนี้จะช่วยลดอาการบวมและลดการคั่งของเลือดในโพรงจมูกได้ ที่ผมแนะนำให้พักสองสัปดาห์เนื่องจากเป็นช่วงที่จมูกมีโอกาสเลือดออกได้ง่าย หากพ้นช่วงนี้ไปโอกาสที่เลือดจะไหลจะน้อยลงไปเรื่อยๆ
ทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบถ้วน ทั้งยาฆ่าเชื้อ, ยาลดบวม หากบวมมากหายใจไม่ออกให้พ่นเพื่อลดบวมได้ก่อนการล้างจมูก, ยาแก้ปวด กินเมื่อปวด, หากมียาที่ผสมน้ำเกลือ ให้ผสมวันละครั้ง แล้วล้างโดยอาจจะล้างหลังจากพ่นยาลดบวมแล้วก็ได้
ดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้เสมหะและน้ำมูกไม่เหนียวข้น ทานอาหารอ่อนๆ ที่ไม่ต้องเคี้ยวมากในช่วงแรก และควรหลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด, เผ็ดจัด เพราะอาจกระตุ้นให้จมูกยิ่งบวม หลีกเลี้ยงอาหารฉุนที่อาจกระตุ้นให้จาม
ข้อห้าม
ห้ามสั่งน้ำมูก การสั่งน้ำมูกแรงๆ จะสร้างแรงดันขึ้นที่จมูกและอาจทำให้เลือดออก ให้ใช้วิธีซับเบาๆ ที่ปลายจมูกแทน
ห้ามเอากระดาษทิชชู่ม้วนแล้วเช็ดเข้าไปในรูจมูกเพราะจะทำให้เส้นเลือดฝอยแตก และติดเชื้อได้
ห้ามก้มหัวต่ำกว่าระดับหัวใจ เช่น การก้มเก็บของ หรือการใส่รองเท้าแบบก้มผูกเชือก ให้นั่งยองแล้วค่อยเก็บของ เพื่อไม่ให้ความดันขึ้นไปที่จมูกโดยไม่จำเป็น
ห้ามยกของหนัก หรือกิจกรรมใดๆ ที่ต้อง "เบ่ง" (รวมถึงการเบ่งอุจจาระแรงๆ)
ห้ามไอหรือจามแรงๆ (ถ้าเลี่ยงได้) หากทนไม่ไหวจริงๆ ให้ "อ้าปาก" เวลาไอหรือจาม เพื่อลดแรงดันในโพรงจมูก
ห้ามแช่น้ำร้อนหรือซาวน่า ความร้อนจะขยายหลอดเลือดและทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
การดูแลอื่นๆ ที่ควรรู้
ผมจะนัดคนไข้มาเพื่อทำความสะอาดแผล (nasal toilet) ซึ่งอาจมีการดูดเลือดเก่าๆ รวมถึงคราบสะเก็ดแผลต่างๆ ออก ขั้นตอนนี้สำคัญต่อการฟื้นตัวระยะยาว และจะช่วยไม่ให้เกิดพังผืดในจมูกแล้วมาบดบังการหายใจด้วย โดยมากผมจะนัดประมาณหนึ่งอาทิตย์หลังผ่าตัด
เลือดออกไม่หยุด: เลือดสดๆ ไหลพุ่งหรือไหลต่อเนื่องไม่หยุด แม้จะนั่งพักและประคบเย็นแล้ว
ไข้สูง: มีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส
ปวดหัวรุนแรงมาก: โดยเฉพาะถ้ามีอาการคอแข็งร่วมด้วย
การมองเห็นผิดปกติ: เช่น มองเห็นภาพซ้อน หรือตาบวมเป่ง หรือการมองเห็นแย่ลง
คนไข้สามารถติดต่อผมได้ผ่านทางรพ.โดยให้รพ.ติดต่อผมทันที หรือหากคนไข้สะดวกสามารถแลกไลน์กับผมได้โดยตรงเมื่อเจอกัน
วิรัช จิตสุทธิภากร