Allergic rhinitis (ภูมิแพ้จมูก):
มีหลักฐานชัดเจนว่าน้ำเกลือล้างจมูกช่วยลดอาการคัดจมูก จาม น้ำมูก และลดการใช้ยา antihistamine หรือ steroid spray ได้ แต่ควรใช้เป็นการรักษาร่วมกับยา ไม่ใช่แทนยา
Acute rhinosinusitis (ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน):
งานวิจัยส่วนใหญ่ในเด็กแสดงผลชัดเจนว่าการล้างจมูกช่วยให้อาการดีขึ้นและหายเร็วขึ้น (ระดับหลักฐานสูงกว่าผู้ใหญ่)
Chronic rhinosinusitis (ไซนัสอักเสบเรื้อรัง):
หลักฐานยังจำกัดในเด็ก แต่การใช้ saline drop หรือ irrigation แบบปริมาตรน้อยๆถือว่าปลอดภัย
เด็ก ไม่ควรใช้ large-volume (>60 mL) เพราะอาจรู้สึกไม่สบาย กลัว หรือกลืนได้
งานวิจัยสนับสนุนให้ใช้
Low- to medium-volume device (5–59 mL) เช่น ขวด squeeze แบบเล็ก หรือขวด dropper
Saline drops or sprays สำหรับเด็กเล็ก (<5 ปี)
เด็กโต (>6–8 ปี) ที่ให้ความร่วมมือดี อาจใช้ squeeze bottle หรือ bulb syringe ขนาดกลางได้
Isotonic saline (0.9%) เป็นชนิดที่แนะนำที่สุดสำหรับเด็ก เพราะระคายเคืองน้อยกว่า hypertonic
Buffered saline (มีสารบัฟเฟอร์ปรับ pH) ช่วยลดอาการแสบจมูกและคนไข้ยอมรับได้ดีกว่า non-buffered
ความถี่: วันละ 1–2 ครั้ง หรือตามอาการ
สำหรับเด็กเล็ก: ใช้ท่านอนตะแคงหรือเงยศีรษะเล็กน้อย แล้วหยอดหรือพ่นเบาๆ
เด็กโต: ให้เอนศีรษะเล็กน้อยไปด้านหน้า เปิดปากขณะล้าง เพื่อป้องกันการไหลเข้าหู
ใช้น้ำเกลือที่ “สะอาดและปราศจากเชื้อ” เช่น น้ำต้มสุกปล่อยเย็น หรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
พบว่าการล้างจมูกในเด็ก ปลอดภัยมาก เมื่อใช้วิธีที่ถูกต้อง
ผลข้างเคียงที่พบบ้าง เช่น แสบจมูก หูอื้อชั่วคราว หรือสำลักเล็กน้อย
การฝึกให้เด็กทำด้วยตัวเองอย่างใจเย็น โดยผู้ปกครองช่วยกำกับ จะเพิ่ม compliance ได้ดี
เด็กส่วนใหญ่ ได้รับประโยชน์จากการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ โดยเฉพาะในโรคภูมิแพ้และไซนัสเฉียบพลัน
ใช้ isotonic, buffered saline จะทนได้ดีกว่า hypertonic
เลือกอุปกรณ์ให้เหมาะกับวัยและขนาดจมูก
ฝึกเด็กให้ทำอย่างถูกวิธี และใช้ในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
วิรัช จิตสุทธิภากร
Chitsuthipakorn W, Kanjanawasee D, Hoang MP, Seresirikachorn K, Snidvongs K. Optimal device and regimen of nasal saline treatment for sinonasal diseases: Systematic review. OTO Open. 2022 Apr 13;6(2):2473974X221105277.