เลือดกำเดาไหล (epistaxis) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะในสภาพอากาศแห้ง หรือช่วงที่เป็นหวัดและมีการแคะจมูกบ่อย โดยมากไม่อันตรายหากรู้วิธีหยุดเลือดอย่างถูกต้อง เลือดกำเดาส่วนใหญ่เกิดจากเส้นเลือดฝอยบริเวณผนังกั้นจมูกด้านหน้าแตก ซึ่งสามารถหยุดได้ด้วยการกดจมูกอย่างถูกวิธี แต่หากทำผิด เช่น เงยหน้า อุดสำลีแน่น หรือเช็ดเลือดบ่อย จะทำให้เลือดหยุดยาก และอาจไหลลงคอได้
ตั้งสติและนั่งตัวตรง
ให้นั่งในท่าตัวตรง หรือเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ห้ามนอนราบ เพราะเลือดจะไหลย้อนลงคอและอาจกลืนเข้าไปจนคลื่นไส้
บีบจมูกส่วนอ่อนด้านล่าง
ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบจมูกทั้งสองข้างตรงส่วนอ่อนใต้กระดูกดั้ง กดค้างไว้ต่อเนื่องประมาณ 10 นาที โดยไม่ปล่อยมือดู ระหว่างนั้นให้หายใจทางปากแทน
ประคบเย็น
อาจลองใช้น้ำแข็งห่อผ้าหรือผ้าเย็นประคบบริเวณสันจมูกหรือหน้าผากประมาณ 10 นาที เพื่อให้หลอดเลือดหดตัวและเลือดหยุดเร็วขึ้น
หลีกเลี่ยงการพูดหรือไอแรง
การพูดหรือหายใจแรง ๆ จะเพิ่มแรงดันในโพรงจมูก ทำให้เลือดออกซ้ำได้
หลังเลือดหยุด
หลีกเลี่ยงการแคะจมูก สั่งน้ำมูกแรง หรือการล้างจมูกอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อให้แผลสมานตัวดี
เลือดกำเดาแบ่งสาเหตุได้เป็นสองกลุ่มใหญ่
1. สาเหตุจากจมูกโดยตรง
แคะจมูก หรือสั่งน้ำมูกแรง อันนี้พบได้บ่อยมาก
อากาศแห้ง ทำให้เยื่อบุจมูกเปราะ
การติดเชื้อในโพรงจมูกหรือไซนัส
การได้รับบาดเจ็บที่จมูก
เนื้องอกในโพรงจมูก (พบไม่บ่อย แต่ควรระวังหากเลือดออกซ้ำด้านเดียว)
2. สาเหตุจากโรคภายในหรือยา
ความดันโลหิตสูง
ความผิดปกติของเกล็ดเลือด หรือภาวะเลือดออกง่าย
การใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน หรือคลอพิเดเกรล
ประมาณร้อยละ 90 ของเลือดกำเดามาจากบริเวณส่วนหน้าของผนังกั้นจมูก ซึ่งเรียกว่า “คิสเซลบาคเพลกซัส” (Kisselbach’s plexus หรือ Little’s area) เป็นจุดที่มีเส้นเลือดฝอยจำนวนมากและอยู่ตื้น จึงแตกได้ง่าย ส่วนที่เหลือมักเกิดจากด้านหลังของโพรงจมูก ซึ่งพบได้ในผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัว และเลือดมักออกมาก ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล
ห้ามเงยหน้า เพราะเลือดจะไหลลงคอ
ห้ามเอนหรือนอนราบ
ห้ามอุดจมูกด้วยสำลีแน่น ๆ
ห้ามล้างจมูกทันทีหลังเลือดหยุด
ห้ามสั่งน้ำมูกแรง ๆ ภายใน 24 ชั่วโมงหลังเลือดหยุด
ควรรีบไปพบแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้
กดถูกวิธีแล้วเกิน 10 นาทีแต่เลือดยังไม่หยุด
เลือดออกมากจนต้องเปลี่ยนวัสดุซับหลายครั้ง
มีอาการเวียนหัว หน้ามืด หรือซีด
มีเลือดไหลซ้ำบ่อย โดยเฉพาะด้านเดียว
มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง หรือใช้ยาละลายลิ่มเลือด
มีเลือดไหลลงคอโดยไม่มีออกทางจมูก (สงสัยเลือดกำเดาด้านหลัง)
แพทย์จะตรวจหาตำแหน่งเลือดออก อาจใช้ยาห้ามเลือด ยาจี้ไฟฟ้า หรือใส่ผ้าและบอลลูนในโพรงจมูกเพื่อหยุดเลือด
งดสั่งน้ำมูกหรือแคะจมูกอย่างน้อย 2–3 วัน
ใช้น้ำเกลือพ่นจมูก หรือเจลให้ความชุ่มชื้นในโพรงจมูก
ดื่มน้ำให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
หากมีเลือดกำเดาเกิดซ้ำ ควรปรึกษาแพทย์หู คอ จมูก เพื่อตรวจหาสาเหตุ
วิรัช จิตสุทธิภากร