ริดสีดวงจมูก คือ ก้อนเนื้ออ่อน ๆ ที่ขึ้นมาจากเยื่อบุโพรงจมูกหรือไซนัส เกิดจากการอักเสบเรื้อรัง ทำให้เยื่อบุบวมและสร้างก้อนเนื้อนี้ขึ้นมา ก้อนจะมีสีซีดหรือเทา นิ่ม ไม่เจ็บเวลาแตะ ต่างจากเนื้องอกชนิดร้ายที่มักแข็งและมีเลือดออกง่าย
ทำไมถึงเป็นริดสีดวงจมูก สาเหตุแท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่ามักเกิดจาก การอักเสบเรื้อรัง และเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย เช่น
ไซนัสอักเสบเรื้อรัง
โรคหืด (Asthma)
ภาวะแพ้ยาแอสไพรินหรือยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs
โรคภูมิแพ้จมูก
พันธุกรรมหรือโรคบางชนิด เช่น Cystic fibrosis
อาการที่มักพบ
คัดจมูกเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก
น้ำมูกไหลหลังโพรงจมูก (รู้สึกมีน้ำไหลลงคอ)
การรับกลิ่นลดลงหรือไม่ได้กลิ่นเลย
บางรายอาจมีปวดตื้อที่หน้า หรือปวดศีรษะ
ในรายที่ก้อนใหญ่ อาจพูดเสียงขึ้นจมูกหรือเสียงเปลี่ยน
การตรวจวินิจฉัย
แพทย์มักใช้ กล้องส่องจมูก ดูภายในโพรงจมูก จะเห็นก้อนสีซีดหรือเทาอ่อน นิ่ม ไม่เจ็บ และอาจตรวจภาพ CT สแกน เพื่อดูว่ามีการอุดตันหรือการอักเสบของไซนัสมากน้อยแค่ไหน
การรักษา การรักษาริดสีดวงจมูกมี 2 แนวทางหลัก คือ
1. การรักษาด้วยยา
สเปรย์พ่นจมูกสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบและอาจทำให้ก้อนเล็กลง
น้ำเกลือล้างจมูก ช่วยล้างสารก่อการอักเสบและน้ำมูกที่ไม่เหนียวมาก
ยาสเตียรอยด์ชนิดกิน ใช้ช่วงสั้น ๆ ในรายที่อาการมาก
ยากลุ่มใหม่ (Biologics) ใช้ในผู้ป่วยที่เป็นมากและไม่ดีขึ้นแม้รักษาด้วยวิธีมาตรฐาน
2. การรักษาด้วยการผ่าตัด
การผ่าตัดส่องกล้องโพรงจมูก (ESS) แพทย์จะเอาริดสีดวงออกและเปิดทางระบายไซนัส เพื่อช่วยให้ยาที่พ่นหรือหยอดเข้าไปทำงานได้ดีขึ้น
การป้องกันและลดโอกาสกลับเป็นซ้ำ
ใช้สเปรย์พ่นจมูกตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง
ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ อาจจะต้องผสมยาในน้ำเกลือเพื่อให้การอักเสบลดลง และป้องกันการงอกใหม่
ควบคุมโรคประจำตัว เช่น หืด หรือภูมิแพ้
หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น ฝุ่น ควันบุหรี่
สิ่งที่คนไข้ควรรู้
ริดสีดวงจมูกเป็นโรคที่ กลับมาเป็นซ้ำได้ แม้ผ่าตัดแล้ว
การรักษาต่อเนื่องหลังผ่าตัดสำคัญมาก เพื่อยืดระยะเวลาที่ไม่เป็นซ้ำ
อาการสูญเสียการรับกลิ่นอาจฟื้นตัวได้บางส่วนเมื่อการอักเสบลดลง
วิรัช จิตสุทธิภากร